ไม่ได้เขียนบันทึกช่วงปีใหม่มาหลายปี ช่วงนี้เริ่มมีเวลาและมีเรื่องราวที่อยากบันทึกไว้
หลายปีที่ผ่านมา เรียงลำดับความสำคัญของชีวิตไว้ดังนี้
ปฏิบัติภาวนา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกวันต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิ ปีก่อนๆ คือวันละ 15 นาที ปีหลังๆ คือ วันละ 30 นาที พบว่าชีวิตเข้มแข็งและสงบสุขมาก หลายครั้งรู้สึกเหมือนที่หลวงพ่อปราโมทย์เทศน์เลยว่า “ชีวิตอาจจะเจอปัญหา แต่ความทุกข์มันเข้ามาไม่ถึงใจ”
แล้วพอไม่มีความทุกข์ร้อน ก็เลยยิ่งรู้สึกว่าแต่ละสิ่งที่เจอไม่ใช่ปัญหา เป็นแค่โอกาสในการเลือกที่จะจัดการ หรือจะปล่อยไป
ครอบครัว
อยู่เมืองเล็กๆ ในหุบเขา กลางวันกลับมาทานข้าวที่บ้าน หยุดงานในวันที่ภรรยาอยากให้หยุด แบ่งเวลาไปเที่ยวเท่าที่สถานการณ์โควิดอำนวย
สองปีที่ผ่านมาไม่ค่อยได้พาคุณอาไปเที่ยวไหน แต่ปีนี้ถ้าฉีดวัคซีนเข็ม 3 เรียบร้อย ก็น่าจะมีโอกาสอยู่บ้าง
ส่วนแม่ที่อยู่อเมริกาก็สุขสบายดี ได้เงินชดเชยและวัคซีนก่อนใคร เหลือแค่เปิดประเทศ น่าจะได้บินมาเที่ยวไทยอีก
งาน
ทีมงานเริ่มแข็งแกร่งและจบงานกันเองได้แล้ว เลยได้มีโอกาสมาโฟกัสกับนวัตกรรมและช่องทางใหม่ๆ มากขึ้น
รวมถึงองค์กรใหญ่หลายๆ แห่งเริ่มชินกับการทำงานที่บ้าน ทำให้ทีมมีโอกาสได้รับงานมูลค่าหลักล้าน หลักสิบล้าน จากการเสนองานออนไลน์ โดยที่ไม่เคยไปประชุมเจอหน้ากันเลย
แต่เป้าหมายของผมคือการมีทีมขนาดเล็ก ทำให้เลือกที่จะไม่ขยายทีม แต่ดึงคนเก่งๆ มาช่วยแทน และปิดรับงานโปรเจ็กอื่นไปถึงปลายปีนี้
แล้วเอาองค์ความรู้เหล่านี้มาทำเป็นโปรดักท์ คือเป็นคอร์ส เป็นธีม/ปลั๊กอิน/โซลูชั่น ขายให้คนทั่วไปอีกต่อ
เป้าหมายก็คือ ให้ฟรีแลนซ์หรือบริษัทจ่ายเงินเราหลักพัน เพื่อไปสร้างงานหลักหมื่นหลักแสนให้ได้
กับช่วงปลายปีที่แล้ว เริ่มสร้างงานเป็นภาษาอังกฤษ ก็รู้สึกว่าตลาดโลกยังมีช่องทางอีกมาก
สรุปจบปี เลยได้ให้โบนัสน้องๆ เริ่มที่ 1.5 เดือน และปีนี้น่าจะได้ปันผลให้ผู้ถือหุ้นซัก 20% ของเงินที่ลงมา เพราะไม่ได้ปันผลมาหลายปีละ
สุขภาพ
ต้นปีรับงานเยอะไป นอนน้อย แต่ก็กินเยอะ ที่นอนนุ่มไป รวมๆ ทำให้กล้ามเนื้อท้องเกร็ง เข้าโรงพยาบาลไป 2 วัน ตรวจสอบทุกแพ็กเกจ พบว่า สุขภาพดีมาก แต่นอนน้อยและกินเยอะ
หลังจากนั้นเลยนอน 8 ชั่วโมงทุกวัน ต่อรองกับที่บ้านขอสิทธิในการกินนมมื้อเย็น (คุณอากลัวหิว ปกติจะทำอาหารและขนมให้วันละ 5 มื้อ) ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แรกๆ ก็ไปวิ่งกับภรรยา หลังๆ ออฟฟิศนัดตีแบดกันตอนเย็น เลยเลิกงาน 5 โมงไปตีแบด กลับบ้าน 6 โมงเย็น เป็นกิจวัตร
ตัวชี้วัดเรื่องสุขภาพอีกอย่างคือ การไปขึ้นดอยจิกจ้องปลายปีกับภรรยาและทีมงาน เดินไปถึงยอดอย่างสดชื่น เหมือนไปรับพลังชีวิต เพื่อลงมาปั่นงานต่อ 😁
การเข้าโรงพยาบาลในรอบหลายสิบปี ทำให้คนอื่นเป็นห่วง และทำให้ตัวเองทบทวนว่า เราสามารถตายได้หรือยัง? ก็พบว่า ชาตินี้น่าจะปฏิบัติภาวนาได้มากกว่าชาติที่ผ่านๆ มาแล้ว (อิงตามตัวชี้วัดในรถวินีสูตร ก็ได้ประมาณเลเวล 3/7) คุ้มค่าที่เกิดมาแล้ว แต่ก็ถือว่าอันตรายในแง่ว่า ถ้าชาติต่อไปไม่ได้พบพระพุทธศาสนา ก็มีสิทธิตกชั้นกลับไปได้ ปีที่ผ่านมาเลยปฏิบัติภาวนาต่อเนื่องอยู่
สังคม
ปีที่ผ่านมา งานอาสาจะมี 2 แนวหลักๆ คือ
- ทำเว็บ เช่น ปายฉีดวัคซีน โครงการไทยรอด
- สอนหนังสือ เช่น เป็นวิทยากรให้ depa, THNIC, ม. ศรีปทุม, กรมพัฒนาชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน
แต่อีกส่วนหนึ่งที่แม้จะเป็นธุรกิจ แต่ผมก็มองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสังคม คือ การไปสร้างออฟฟิศที่ถนนคนเดิน น้องในทีมช่วยตั้งชื่อว่า Seed Time ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาแห่งการเพาะเมล็ดพันธุ์ เพราะนอกจากเป็นออฟฟิศ เรายังมองว่าเป็นที่อบรม มีห้องตัดต่อ ห้องถ่ายทำพร้อมฉากเขียว มีห้องสมุดเล็กๆ และเน็ตแรงๆ ซึ่งน่าจะเริ่มจากงาน WordPress Pai Meetup ก่อน (แบ่งปันความรู้การทำเว็บให้กับชุมชนในปาย) แล้วอาจจะให้เด็กนักเรียน มาลองหัดทำรายการ ไลฟ์สด งานนำเสนอ งานเว็บ ฯลฯ ต่อไป
ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ Co-Working Space เพราะขี้เกียจต้อนรับลูกค้าและหน่วยงานที่จะมาดูงานฉาบฉวย อยากให้มาเพื่อมาสร้างสรรค์ผลงาน มาลงมือทำกันจริงๆ มากกว่า
และแน่นอนว่า เมื่อเสร็จแล้ว ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกท่านครับ 😀
ขอให้ธรรมคุ้มครอง
สมัยหนุ่มๆ ไม่ค่อยชอบอวยพรปีใหม่ เพราะพรที่แปลว่าประเสริฐนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำเอง
แก่แล้วเลยขอลดทอนเป็นคำว่า ขอให้ธรรมคุ้มครอง เพราะ ธรรมะนั้นจะคุ้มครองเฉพาะผู้ประพฤติธรรม ซึ่งหมายความว่า เรามาปฏิบัติธรรมกันเถิด แล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง
การปฏิบัติในแง่ปัจเจก น่าจะเข้าใจไม่ยาก พื้นฐานคือการมีศีลธรรมทั่วไป ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนตนเอง
ส่วนในแง่องค์กร ผมคิดว่าการไม่เบียดเบียน ก็คือ
- ปฏิบัติตามกฏหมายแรงงาน เสียภาษีตามกฏหมาย
- จ่ายเงินคู่ค้าตามที่ตกลงกันไว้
- ใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์
- ไม่รับงานที่มีใต้โต๊ะ
- สร้างสินค้าและบริการที่ดี ตามที่โฆษณา
- ทำธุรกิจสัมมาอาชีวะ (ไม่ขายอาวุธ / ค้ามนุษย์ / ค้าสัตว์เป็น / ขายน้ำเมา / ขายยาพิษ)
สำหรับคนปฏิบัติธรรม ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้สึกว่า ทำให้ชีวิตราบรื่นอย่างน่าอัศจรรย์ บางทียังแซวกับผู้ประกอบการท่านอื่นเลยว่า ธรรมะช่วยดู Cashflow (กระแสเงินสด) ให้อยู่ อุปสรรคหลายๆ อย่างก็มักผ่านไปด้วยดี
แต่หากอธิบายตามหลักเหตุผล ก็เพราะเมื่อปฏิบัติธรรม เราจะมีสติและความรอบคอบในการตัดสินใจ ความซื่อสัตย์สุจริตนั้น เป็นเกราะกำบังการโดนฟ้องและกลั่นแกล้งทั้งหลาย
ขอเชิญชวนทุกท่านมาปฏิบัติธรรมกัน แล้วธรรมจะคุ้มครองท่าน
